รับยื่น รับทำ รับปรึกษา รับแก้วีซ่าไม่ผ่าน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
วีซ่าท่องเที่ยว
วีซ่าสวิตเซอร์แลนด์ ปัจจุบันนี้ไม่สามารถยื่นขอวีซ่ากับสถานทูตสวิสเซอร์แลนด์ โดยตรงได้แล้วแต่ทางสถานทูตมีตัวแทนที่เรียกว่า TLS เป็นตัวแทนในการรับยื่นวีซ่าแทนสถานทูตและทุกคนต้องยื่นผ่านตัวแทนเท่านั้น ( อาคารสาทร ซิตี้ ชั้น 12) *** ในการยื่นขอวีซ่าควรจองคิวผ่านทางอินเตอร์เน็ทอย่างน้อย 2-3 อาทิตย์ *** Visa Tourist 1. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าที่กรอกข้อมูลครบถ้วน 2. หนังสือเดินทาง( passport) ที่มีอายุอย่างต่ำไม่น้อยกว่า 3 เดือน นับจากวันที่ท่านตั้งใจที่จะเดินทางกลับจาก สวิสเซอร์แลนด์ และสำเนาหน้าแรก รวมถึงหน้าที่มีการต่ออายุหรือแก้ไขชื่อ/นามสกุล 3. รูปถ่ายสี พื้นฉากหลังเป็นสีขาว ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป ถ่ายไม่เกิน 3 เดือน 4. หลักฐานการทำงาน
6. หลักฐานการจองที่พัก/โรงแรม
8. ใบเปลี่ยนชื่อ - สกุล ตัวจริงพร้อมสำเนา (ถ้ามี) 9. ทะเบียนสมรส - ทะเบียนหย่า ตัวจริงพร้อมสำเนา (ถ้ามี) 10. ประกันสุขภาพเดินทางและอุบัติเหตุ มูลค่าประกันอย่างต่ำ 30,000 ยูโร หรือ 1,500,000 บาท 11. สูติบัตร และหนังสือรับรองจากผู้ปกครอง หรือ บิดาและมารดาอนุญาตให้เดินทาง ซึ่งหนังสือรับรองนี้ต้อง ออกโดยอำเภอ (สำหรับผู้เดินทางที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เดินทางลำพัง) 12. ใช้เวลายื่น 15 วันทำการ ค่าธรรมเนียมวีซ่าสถานฑูต 3,513.00 บาท / คน หมายเหตุ :
วีซ่าธุรกิจ วีซ่าสวิตเซอร์แลนด์ ปัจจุบันนี้ไม่สามารถยื่นขอวีซ่ากับสถานทูตสวิสเซอร์แลนด์ โดยตรงได้แล้วแต่ทางสถานทูตมีตัวแทนที่เรียกว่า TLS เป็นตัวแทนในการรับยื่นวีซ่าแทนสถานทูตและทุกคนต้องยื่นผ่านตัวแทนเท่านั้น *** ในการยื่นขอวีซ่าควรจองคิวผ่านทางอินเตอร์เน็ทอย่างน้อย 2-3 อาทิตย์ *** Visa Business 1. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าที่กรอกข้อมูลครบถ้วน 2. หนังสือเดินทาง( passport) ที่มีอายุอย่างต่ำไม่น้อยกว่า 3 เดือน นับจากวันที่ท่านตั้งใจที่จะเดินทางกลับจาก สวิสเซอร์แลนด์ และสำเนาหน้าแรก รวมถึงหน้าที่มีการต่ออายุหรือแก้ไขชื่อ/นามสกุล 3. รูปถ่ายสี พื้นฉากหลังเป็นสีขาว ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป ถ่ายไม่เกิน 3 เดือน 4. หลักฐานการทำงาน
6. หลักฐานการจองที่พัก/โรงแรม 7. ใบจองตั๋วเครื่องบิน 8. ประกันสุขภาพเดินทางและอุบัติเหตุ มูลค่าประกันอย่างต่ำ 30,000 ยูโร หรือ 1,500,000 บาท 9. สูติบัตร และหนังสือรับรองจากผู้ปกครอง หรือ บิดาและมารดาอนุญาตให้เดินทาง ซึ่งหนังสือรับรองนี้ต้อง ออกโดยอำเภอ (สำหรับผู้เดินทางที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เดินทางลำพัง) 10. สำเนาทะเบียนบ้าน 11. สำเนาบัตรประชาชน 12. สำเนาทะเบียนสมรส - หย่า (ถ้ามี) 13. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี) 14. หนังสือหรือจดหมายเชิญจากบริษัทหรือหน่วยงานในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ส่งตรงมายังสถานทูต ทางอีเมล์ หรือ โทรสาร และสำเนา ค่าธรรมเนียมวีซ่าสถานฑูต 3,490.00 บาท / คน หมายเหตุ :
|
สวิตเซอร์แลนด์ (อังกฤษ: Switzerland, เยอรมัน: die Schweiz, ฝรั่งเศส: la Suisse, อิตาลี: Svizzera, โรมานช์: Svizra) หรือชื่อทางการคือ สมาพันธรัฐสวิส (Swiss Confederation) เป็นประเทศเล็ก ๆ ที่ที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ปกครองแบบสหพันธ์ และตั้งอยู่ในใจกลางทวีปยุโรปบนเทือกเขาแอลป์ โดยมีพรมแดนติดกับประเทศเยอรมนี ประเทศฝรั่งเศส ประเทศอิตาลี ประเทศออสเตรีย และประเทศลิกเตนสไตน์ นอกจากจะมีความเป็นกลางทางการเมืองแล้ว สวิตเซอร์แลนด์นับว่ามีการร่วมมือกันระหว่างประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นที่ตั้งขององค์กรนานาชาติหลายแห่ง
Confoederatio Helvetica เป็นชื่อทางการของประเทศในภาษาละติน และหลีกเลี่ยงการใช้หนึ่งใน 4 ภาษาทางการ ซึ่งคำย่อ คือ CH ใช้เป็น โดเมนระดับบนสุดสำหรับอินเทอร์เน็ต (top level domain) เป็นต้น
เมืองหลวง: กรุงเบิร์น (Bern) เมืองมรดกโลก
ภาษา/ประชากร: จำนวนประชากร 6.9 ล้านคน ภาษา เยอรมัน - ภาคกลาง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฝรั่งเศส - ภาคตะวันตก อิตาเลียน - ภาคใต้
โรมันช์ (Rhaeto-Romanic - ภาษาละตินโบราณ) ใช้พูดกันในชนกลุ่มน้อยของมณฑล กริซองส์ (Grisons) อังกฤษ - พูดกันได้ทั่วไปโดยเฉพาะในเมืองและแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ภาษาทางการในประเทศสวิตเซอแลนด์: เยอรมัน (62.7%; 72.5%) ฝรั่งเศส (20.4%; 21.0%) อิตาลี (6.5%; 4.3%) โรมานซ์ (0.5%; 0,6% ) ประชากร 7.5 ล้านคน (ปี 2549) เป็นชาวสวิส เยอรมันร้อยละ 65 สวิสฝรั่งเศสร้อยละ 18 สวิสอิตาเลียน ร้อยละ 10 โรมานช์ ร้อยละ 1 อื่น ๆ ร้อยละ 6
วัฒนธรรม ประชาชนร้อยละ 48 นับถือนิกายโรมันคาทอลิก ร้อยละ 44 นับถือนิกายโปรเตสแตนท์ ร้อยละ 8 นับถือศาสนาอื่นๆหรือมิได้นับถือศาสนา
ภูมิอากาศ: ภูมิอากาศของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ขึ้นอยู่กับระดับความสูงของพื้นที่ และมีลักษณะภูมิอากาศตั้งแต่ แบบแอลป์ ไปจนถึง แบบเมดิเตอร์เรเนียน สำหรับฤดูใบไม้ผลิ สภาพอากาศที่นั่นกำลังเย็นสบายเลยค่ะ ถ้าอยู่ในเมือง อากาศจะอยู่ที่ประมาณ 15-20 องศาเซลเซียส แต่ถ้าขึ้นไปบนภูเขาสูงมีหิมะปกคลุม อุณหภูมิจะติดลบ เมื่อถึงฤดูหนาว ในประเทศจะเต็มไปด้วยหิมะ และอาจมีฝนด้วยในบางครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่อุณหภูมิจะติดลบนะคะ ส่วนฤดูร้อน อากาศจะอบอุ่นและเย็นชื้น โดยอาจมีฝนตกบ้าง อุณหภูมิในช่วงฤดูนี้อาจสูงถึง 30 องศาเซลเซียสได้ Daylight Savings time ตั้งแต่สิ้นเดือนมีนาคม จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม เวลาในสวิตเซอร์แลนด์จะเปลี่ยนจาก GMT+1 เป็น GMT+2 (ช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง และ 5 ชั่วโมง ตามลำดับ) โดยเริ่มตั้งแต่คืนวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคม เวลา 02.00 น. ใช้เวลา GMT+2 และตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ สุดท้ายของเดือนตุลาคม เวลา 03.00 น. ใช้เวลา GMT+1
เงินตรา ชื่อ สวิสฟรังก์ (Swiss Francs) ธนบัตร ใบละ 10, 20, 50, 100, 200, 500 และ 1,000 เหรียญ หน่วยเป็นซองตีมส์ (Centimes) 5, 10, 20, 50 หน่วยเป็นฟรังซ์ 1, 2, 5
การเดินทาง ใน สวิตเซอร์แลนด์ ทางรถยนต์ การเดินทางโดยรถยนต์ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้นสะดวกมาก ใบอนุญาตขับขี่สากลนั้นใช้ได้ในสวิส แต่อายุขั้นต่ำของผู้ขับขี่คือ 18 ปี ป้ายจราจรทั่วไป ในสวิตเซอร์แลนด์เหมือนกับป้ายจราจรในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกบางป้ายจะมีคำอธิบายอยู่ด้วย ป้ายจราจรตามเส้นทางที่เข้าใจง่าย แต่ควรจะใช้ความระมัดระวังในการขับรถตามถนนที่ค่อนข้างแคบและคดเคี้ยวไปมา สามารถที่จะหลีกเลี่ยงเส้นทางบนเขาได้โดยเลี่ยงไปใช้อุโมงค์สำหรับรถยนต์ หรือรถไฟ ความเร็วจำกัดในการขับรถยนต์ คือ บนทางด่วนไม่เกิน 120 กิโลเมตร / ชั่วโมง (75 ไมล์/ชั่วโมง) บนทางหลวงไม่เกิน 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง (31 ไมล์/ ชั่วโมง) การจำกัดความเร็วนั้นจะระบุเป็นกิโลเมตรเสมอ ตามทางด่วนจะใช้ป้ายบอกเส้นทางเป็นสีเขียวนอกจากจะระบุเป็นอย่างอื่น รถทางขวาจะเป็นผู้มีสิทธิได้ใช้ทางก่อน กฎจราจรเป็นแบบไปขวามาซ้าย ขับชิดขวา และแซงทางซ้าย ห้ามแซงทางขวา ผู้โดยสารทุกคนต้องขาดเข็มขัดนิรภัย เด็กอายุต่ำกว่า 7 ขวบ จะต้องนั่งรัด เข็มขัดอยู่ในที่นั่งสำหรับ (Child Seat) รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ทางด่วนจะต้องจ่ายค่าผ่านทางเป็นรายปีจำนวน 40 สวิสฟรังก์ ซึ่งเรียกกันว่า วิกแน็ต (Vignettte) ตามปกติ รถเช่าในประเทศสวิตเซอร์แลนด์จะรวมค่าเช่ารถด้วย สำหรับยานพาหนะที่เช่ามาจากนอกประเทศสวิตเซอร์แลนด์จะไม่รวมค่าผ่านทาง การจ่ายค่าผ่านทางด่วนนี้สามารถทำได้ที่ด่านชายแดนหรือที่สำนักงานไปรษณีย์ ของสวิตเซอร์แลนด์ หรือที่ปั๊มน้ำมันสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเรื่องนี้ได้ที่ WWW.europcar.ch
ทางเครื่องบิน มีสายการบินหลายสายที่บินเข้าท่าอากาศยานระหว่างประเทศของเมืองซูริค (www.unique.ch) เมืองเจนีวา (www.gva.ch) และเมืองบาเซิล (www.euairport.com) สายการบินสวิส (Swiss International Air Lines) ให้บริการบินระหว่างจุดหมายปลายทาง 126 แห่ง ใน 59 ประเทศทั่วโลกส่วนใหญ่จะเป็นประเทศในยุโรป แต่ขณะเดียวกันก็ให้บริการบินไปยังทวีปอื่น ๆ ด้วย (www.swiss.com) ที่สนามบินซูริคกับสนามบินเจนิวา มีสถานีรถไฟภายในบริเวณสนามบินและเส้นทางรถไฟ ที่อำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าไปในเมือง มีบริการทุก 10 - 20 นาที ใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองเพียง 10 นาทีเท่านั้น และที่สถานีรถไฟของสนามบินทั้งสองแห่งมีรถไฟวิ่งระหว่างประเทศ ไปยังเมืองใหญ่ของทุกประเทศในยุโรปทุกชั่วโมง ที่เมืองบาเซิล มีรถประจำทางให้บริการจากสนามบินไปยังในเมือง ทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองเพียง 15 - 20 นาที ชุมทางรถประจำทางในเมืองอยู่ติดกับสถานีรถไฟ
ทางรถไฟ ท่านจะชื่นชอบระบบรถไฟที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางและดีเยี่ยมของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพราะท่านจะเดินทางได้อย่างสะดวกสบายและผ่อนคลาย กับทั้งท่านยังสามารถเพลิดเพลินกับทัศนีย์ภาพที่งดงามสองข้างทางรถไฟ รถไฟจะออกจากสถานีทุก ๆ ชั่วโมง เริ่มต้นตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนถึงเที่ยงคืน การต่อรถไฟก็ง่ายและสะดวกมาก ตามปรกติแล้วจะใช้เวลาในการเปลี่ยนขบวนรถเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ตั๋วรถไฟเที่ยวเดียวและตั๋วไป - กลับ มีขายที่สถานีรถไฟทุกแห่งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับการเดินทางหลายเที่ยว ภายในประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้น เราแนะนำให้ท่านใช้ตั๋ว สวิส พาส (Swiss pass) ที่สะดวกและประหยัด การสำรองที่นั่งนั้นจำเป็นมากสำหรับรถไฟที่วิ่งบนเส้นทางสายท่องเที่ยว ที่เน้นเรื่องการชมวิวทิวทัศน์ เช่น สายกลาเชียร์ เอ็กซ์เพรส (Glacier Express) และ สายเบอร์นีน่า เอ็กซ์เพรส (Bernina Express) เป็นต้น การสำรองที่นั่งทำได้ ที่ สถานีรถไฟใหญ่ ๆ ทุกแห่ง
ยูโรพาส (Euro Pass) ยูเรลพาส (Eurail pass) ยูเรล ซีเล็คท์ พาส (Eurail Select Pass) ถ้าท่านวางแผนที่จะเดินทางไปหลายประเทศในทวีปยุโรปทางเลือกที่ประหยัดได้แก่ " ยูเรล ซีเล็คท์ พาส" ซึ่งใช้ได้ในการเดินทางรวม 3 ประเทศที่มีพรมแดนติดกัน "ยูโรพาส" ซึ่งใช้ได้ใน 9 ประเทศหรือ "ยูเรลพาส" ซึ่งใช้ได้ในการเดินทางรวม 17 ประเทศ บัตรโดยสารเหล่านี้ให้สิทธิแก่ผู้ที่ไม่มีถิ่นพำนักถาวรในยุโรปได้ เดินทางอย่างไม่จำกัดเที่ยวบนเครือข่ายบริการเดินทางโดยรถไฟในยุโรปที่มีมากที่สุดถึง 17 ประเทศ รวมทั้งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ด้วย เด็ก ๆ อายุตั้งแต่ 4 ขวบ จนถึง 12 ปี จ่ายค่าโดยสารครึ่งราคา ตั๋วยูเรลพาส ไม่มีขายในทวีปยุโรป ดังนั้น จึงควรซื้อตั๋วนี้ก่อนการเดินทางออก จากประเทศไทย โดยซื้อได้จากสำนักงานท่องเที่ยวของท่าน บัตรโดยสารหลักและเรือล่องทะเลสาบบางสายในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของ สวิตเซอร์แลนด์
1. Bern เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์เป็นเมืองโบราณเก่าแก่และโรแมนติก การเดินเที่ยวชมความงดงามของสถาปัตยกรรมในเขตเมืองเก่า เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมีโอกาสได้มาเยือนนครแห่งนี้ Bern สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้ว โดยมีแม่น้ำ Aare ล้อมรอบตัวเมือง แม่น้ำแห่งนี้เปรียบเหมือนปราการธรรมชาติซึ่งป้องกันเมืองไว้ทั้งสามด้าน สำหรับด้านที่สี่ชาวเมืองได้สร้างกำแพงและสะพานข้ามที่สามารถชักขึ้นลงได้ และโดยการรักษาผังเมืองให้มีสภาพดังเดิมตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา Bern จึงได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกของ UNESCO ซึ่งเป็นเมืองเดียวในประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ การเดินชมเมืองควรเริ่มจาก Rose Garden เพียง 5 นาทีก็จะพบกับบ่อเลี้ยงหมีของเมือง ( หมี เป็น สัญลักษณ์ของ Bern ) จากนั้นเมื่อเดินข้ามสะพานมา ก็จะเริ่มเข้าเขตเมืองเก่า ที่มีหลังคาคลุมตลอดทางยาวถึง 6 กิโลเมตร ภายใต้หลังคานี้มีร้านค้ามากมายหลายร้อยแห่ง รวมทั้งภัตตาคารที่มีมากกว่า 150 แห่งในเขตเมืองเก่า และด้วยการดูแลรักษาสถาปัตยกรรมของเมืองอย่างดี Bern ยังเปรียบเหมือนเหมืองทองของนักถ่ายภาพอีกด้วย นอกจากนั้น Bern ยังมีโบสถ์ที่สูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้ง ตลาดนัดชาวนา ซึ่งจัดขึ้น 2 ครั้งต่อสัปดาห์ที่หน้ารัฐสภาของเมืองแห่งนี้
2. Interlaken "สวยเหมือนเมืองในฝัน" คือคำจำกัดความของ Interlaken ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ Thun และ Brienz สถานที่ตากอากาศชั้นนำส่วนใหญ่ในถิ่นที่เรียกกันว่า Bernese Oberland ตั้งอยู่ตามเชิงเขา Eiger, Monch และ Jungfrau ทิวทัศน์แถบนี้บริสุทธิ์และสวยงามเกินคำบรรยาย จึงเป็นสถานตากอากาศที่นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกชื่นชอบมากที่สุด Jungfraujoch หลังคาแห่งยุโรป ล่าสุดได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกของ Unescoเมื่อเดือนธันวาคม 2544 สถานีรถไฟสูงที่สุดในยุโรป ที่ไม่สามารถลืมไปได้ ในการทัศนาจรภูเขา ซึ่งมีความสูงถึง 3454 เมตร พบกับสิ่งสวยงามที่นี่คือ วังน้ำแข็ง และทัศนียภาพ ที่งดงามประกอบไปด้วย Sphinx หอคอยชมทัศนียภาพ ที่อยู่เหนือธารน้ำแข็ง Aletsch ( ยาวที่สุดในเทือกเขา Alps ) และยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ของประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมกันนี้ยังจะเดินเล่นบนหิมะ นั่งกระดานเลื่อนโดยมีสุนัข Husky ลาก สนามเล่นสกี สโนว์บอร์ทสำหรับฤดูร้อนหรือ ท่านที่ชอบการท้าทาย ก็มีการผจญภัยอีกหลายอย่าง รับรอง 100% ท่านจะพบกับ หิมะ และน้ำแข็งที่นี่ Mount Schilthorn Piz-Gloria จับรถไฟจาก INTERLAKEN สู่ LAUTERBRUNNEN ใช้เวลาประมาณ 35 นาที และจาก LAUTERBRUNNEN BLM ขึ้นเขาไปหมู่บ้าน MURREN เป็นหมู่บ้านปลอดรถยนต์ โดยรถรอกกว้าน (FUNICULAR) ต่อจากนั้นขึ้นรถกระเข้าที่ MURREN ไปยอดเขาชินธอน ที่ MOUNT SCHILTHORN PIZ-GLORIA มีภัตตาคารหมุนอยู่บนยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 3000 เมตร ถ้าอากาศดีจะมองเห็นเทือกเขาแอล์ปได้รอบด้านตั้งแต่เยรมันจนถึง ฝรั่งเศสวิวทิวทัศน์สวยงามตระการตาอย่างยิ่ง Grindelwald รถไฟใช้เวลาประมาณ 35 นาที ขนาบข้างด้วยธารน้ำแข็ง 2 ด้านที่ทอดตัวยาวลงมาจากภูเขาสูงสู่หุบเขา จากที่นี่จะมองเห็นภูเขา Eiger ทางด้านเหนือ (North Face) ที่ยืนหยัดท้าทายผู้พิชิตความสูงมาแล้วมากมายและ Wetterhorn ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 3701 เมตร Schynige Platte Alpine Garden มีพันธุ์ไม้ที่ขึ้นอยู่ตามเทือกเขาแอล์ปให้ดูหลายชนิดใช้เวลาเดินชม 3-4 ชั่วโมง ค่าเข้าชม 40 ฟรังซ์ ต้องขึ้นรถไฟไปบนยอดเขา บน Schynige Platte มี Paragliding ให้ลองด้วย ล่องเรือในทะเลสาบ Thun และ Brienz ในวงล้อมของภูเขาสูง แวะชมปราสาท Thun ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่จัดแสดงในห้องโถงใหญ่ของปราสาท เปิดให้ชมระหว่างเดือนมีนาคม ถึง เดือนตุลาคม Spiez ชมปราสาทโบราณที่เปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม ถึงกลางเดือนตุลาคม ค่าโดยสารเรือฟรีโดยใช้สวิสพาสส์ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง Ballenberg แสดงให้เห็นถึงชาติพันธุ์และการดำรงชีวิตในสมัยโบราณ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน ถึง 31 ตุลาคม ล่องแพครึ่งวันกับไกด์นำเที่ยวรอบๆ Interlaken ราคาตั้งแต่ 54-84 ฟรังซ์ต่อคน ขึ้นอยู่กับรายการนำเที่ยว การผจญภัยตามช่องเขา น้ำตก ว่ายน้ำ สำรวจถ้ำ และเดินเท้า (Canyoning) ราคา 80-120 ฟรังซ์ต่อคน พร้อมไกด์นำเที่ยว
3. Luzern Water Tower และ Chapel Bridge เป็นสัญลักษณ์ของเมือง Lucerne ที่นักท่องเที่ยวจำได้ทันทีที่เห็น สร้างมานานกว่า 650 ปีแล้ว ตัวเมืองเก่าเริ่มจากฝั่งแม่น้ำ Reuss มีสถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้างที่น่าสนใจหลายแห่ง เมือง Luzern จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวเกือบตลอดปี เพราะเป็นเมือง ชอปปิ้งที่อยู่ระดับแนวหน้าของสวิตเซอร์แลนด์ จะมีตลาดนัดเป็นประจำทุกวันอังคารและวันเสาร์ ด้วย สถานที่เที่ยวและกิจกรรมที่แนะนำในเมือง Luzern : พิพิธภัณฑ์การขนส่งและคมนาคม (Museum of Transport and Communication) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป มีห้องจัดแสดงถึง 12 ห้องเป็นที่น่าสนใจและน่าชมมาก ภูเขา Titlis และ Pilatus เป็นภูเขาที่มีความชันที่สุดในโลก มีภัตตาคารอยู่บนยอดเขาที่สามารถชมทิวทัศน์โดยรอบได้ ใช้สวิสพาสส์ล่องเรือชมทิวทัศน์ไปในทะเลสาบ Luzern จนถึงเมือง Vitznau สามารถต่อรถไฟขึ้นไปเที่ยวภูเขา Rigi (ความสูง 1798 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) ภูเขา Stanserhorn เดินทางโดยรถรอกกว้านสมัยเก่าและรถกระเช้ารุ่นใหม่ล่าสุด (Aerial Cable Car) เพื่อชมทิวทัศน์และรับประทานอาหาร Casino Vegas เป็นสถานที่เสี่ยงโชคกับเครื่องเล่นสลัดแขนเดียว (Slot-machine) หลากชนิด และชมการแสดงพื้นเมืองจากทุกภาคของสวิตเซอร์แลนด์
4. Lausanne เมืองโลซานน์เป็นเมืองที่สงบและงดงามมากอยู่ติดกับทะเลสาบ เจนีวามีท่าเรือข้ามไปสู่ประเทศฝรั่งเศสได้ เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์โอลิมปิค ซึ่งท่านจะพบกับการแสดงอันยิ่งใหญ่ของวินาทีแห่งประวัติศาสตร์โอลิมปิคกับสุดยอด Special Effect ที่จะทำให้คุณย้อนกลับไปอยู่ในเหตุการณ์จริง ชมหลักฐานที่สำคัญต่างๆในซุ้มนิทรรศการ ห้องจัดแสดงงาน ศูนย์ข้อมูลพร้อมศูนย์อำนวยความสะดวกต่างๆอย่างครบครัน รับฟรีบัตรเข้าชม Olympic Museum สำหรับท่านที่จองสวิตเซอร์แลนด์แพคเกจ
5. Zurich เมืองใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ ศูนย์กลางการค้าทองคำของโลก ตั้งอยู่ทิศเหนือสุดของทะเลสาบ Zurich ศูนย์กลางสำคัญของธุรกิจพาณิชย์ เศรษฐกิจและการเงิน มีโรงละครโอเปร่า คอนเสิร์ต พิพิธภัณฑ์ โบสถ์และวิหารเก่าแก่อย่าง Grossmunster และ Fraumunster ที่จะพลาดไม่ได้เป็นอันขาดคือถนน Bahnhofstrasse ที่ขึ้นชื่อลือชาหนักหนาว่าแต่ละร้านล้วนตกแต่งประดับประดากันอย่างอลังการ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ตลอดสองข้างทางของถนนมีห้องเสื้อชั้นนำของยุโรป, รองเท้า, กระเป๋า, เครื่องประดับนานาชนิด และที่ขาดไม่ได้เลยคือร้านขายนาฬิกา Zurich มีรถรางและรถโดยสารบริการควบคู่กันไป การเดินทางไปที่ต่างๆ จึงสะดวกและประหยัดท่านสามารถใช้สวิสพาสส์ได้อีกเช่นเคย ในส่วนของเมืองเก่า น่าเดินเที่ยวเพราะมีร้านขายของเก่า ร้านภาพเขียนทั้งเก่าและใหม่ และร้านหนังสือดีๆ ตลอดจนถึงสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้านอีกด้วย
อาหารสวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้พอเมื่อไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ต้องรับประทาน สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่รวบรวมเอาวัฒนธรรม ของประเทศเพื่อนบ้านไว้หลากหลาย ทำให้อาหารการกินของที่นี่ ได้รับอิทธิพลจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาก เช่น ประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี อาหารสวิตเซอร์แลนด์ ที่ท่านจะพลาดไม่ได้ ก็คือ Cheese Fondue, Sausages and Roesti (มันฝรั่งซอยละเอียดทอด มีไส้กรอกเป็นเครื่องเคียง), เนยแข็งนานาชนิด และ ของหวาน เช่น ช็อกโกแลต, เพสตี้ และเค้ก เป็นต้น ท่านสามารถไปลิ้มลองขนมหวาน รสชาติกลมกล่อมได้ตามภัตตาคาร ร้านอาหารที่มีอยู่มากมายใน สวิตเซอร์แลนด์แห่งนี้อาหารท้องถิ่น
ระบบไฟฟ้า ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ใช้ระบบไฟฟ้า 220 โวลท์, 50 ไซเคิ้ลสามารถใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ทุกชนิด แต่จะเป็นหัวปลั๊กแบบสามขา บางครั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าในเมืองไทยก็เป็นแบบสองขา เพราะฉะนั้น ท่านอย่าลืมนำหัวปลั๊กต่อเชื่อม หรือ Adapter ไปด้วย
ระบบโทรศัพท์ นักท่องเที่ยวสามารถใช้โทรศัพท์ที่ใดก็ได้ทั่วประเทศ และยังสามารถโทรไปที่ต่างๆ ทั่วโลกได้เช่นกัน โดยการหมุนหมายเลขรหัสประเทศนั้น ตามด้วยหมายเลขเมือง และเบอร์โทรของประเทศไทยคือ 0066 + จังหวัด + หมายเลขโทรศัพท์ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีบริการโทรศัพท์ทางไกล ทั้งชนิดหยอดเหรียญและใช้การ์ดโฟน หรืออีกวิธีหนึ่ง คือ การเปิด Roaming แต่ก่อนเปิดใช้งานจะต้องไปแจ้งทางเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของท่านก่อน
ข้อแนะนำพิเศษ ยารักษาโรคประจำตัว ยาดม ยาแก้ปวดเมื่อย ยาแก้ปวดหัว ควรเตรียมไปเองนะคะ เพราะการซื้อยาที่สวิสเซอร์แลนด์ค่อนข้างยุ่งยาก การที่จะไปซื้อตามร้านขายยาแล้วได้รับเลยอย่างที่บ้านเราไม่สามารถทำได้ ที่นั่น ท่านจะต้องมีใบสั่งยาจากหมอก่อน แล้วค่อยเอาใบสั่งไปยื่นที่ร้านขายยา ซึ่งจะทำให้เราเสียเวลาในการท่องเที่ยวไปมากทีเดียว
สำหรับค่าทิป โดย ปกติจะรวมอยู่แล้วใน ค่าที่พักในสวิตเซอร์แลนด์ ค่าอาหาร ค่าทำผม หรือ ค่ารถแท็กซี่ ส่วนค่ายกกระเป๋า ถือเป็นบริการพิเศษที่นอกเหนือออกไป ท่านควรทิปให้พนักงานด้วย อัตราทั่วไปคือ ทิป 2 ฟรังช์ต่อกระเป๋าหนึ่งใบ
เวลาทำการทั่วไป ธนาคาร จันทร์-ศุกร์ 08.30-16.30 ไปรษณีย์ จันทร์-ศุกร์ 07.30-12.00 ,13.30-18.00 เสาร์ 07.30-11.00 ร้านค้า จันทร์-ศุกร์ 08.00-12.00 ,13.00-18.30
แหล่งช้อปปิ้ง สถานที่ช้อปปิ้งในเมือง Interlaken โด่งดังมากด้านงานฝีมือทุกชนิด ตั้งแต่ผ้าปัก ไม้แกะสลักไปจนถึงของที่ระลึกจำนวนมาก แต่ถ้าอยากไปซื้อนาฬิกาเลื่องชื่อของที่นี่ท่านจะต้องไปที่เมือง Luzern ชื่อนี้เป็นที่คุ้นหูคนไทยมากที่สุด เพราะเป็นเมืองที่นาฬิกาโรเล็กซ์ขายดีที่สุด รองลงมาคือมีดพก (Swiss Army Knives)
Confoederatio Helvetica เป็นชื่อทางการของประเทศในภาษาละติน และหลีกเลี่ยงการใช้หนึ่งใน 4 ภาษาทางการ ซึ่งคำย่อ คือ CH ใช้เป็น โดเมนระดับบนสุดสำหรับอินเทอร์เน็ต (top level domain) เป็นต้น
เมืองหลวง: กรุงเบิร์น (Bern) เมืองมรดกโลก
ภาษา/ประชากร: จำนวนประชากร 6.9 ล้านคน ภาษา เยอรมัน - ภาคกลาง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฝรั่งเศส - ภาคตะวันตก อิตาเลียน - ภาคใต้
โรมันช์ (Rhaeto-Romanic - ภาษาละตินโบราณ) ใช้พูดกันในชนกลุ่มน้อยของมณฑล กริซองส์ (Grisons) อังกฤษ - พูดกันได้ทั่วไปโดยเฉพาะในเมืองและแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ภาษาทางการในประเทศสวิตเซอแลนด์: เยอรมัน (62.7%; 72.5%) ฝรั่งเศส (20.4%; 21.0%) อิตาลี (6.5%; 4.3%) โรมานซ์ (0.5%; 0,6% ) ประชากร 7.5 ล้านคน (ปี 2549) เป็นชาวสวิส เยอรมันร้อยละ 65 สวิสฝรั่งเศสร้อยละ 18 สวิสอิตาเลียน ร้อยละ 10 โรมานช์ ร้อยละ 1 อื่น ๆ ร้อยละ 6
วัฒนธรรม ประชาชนร้อยละ 48 นับถือนิกายโรมันคาทอลิก ร้อยละ 44 นับถือนิกายโปรเตสแตนท์ ร้อยละ 8 นับถือศาสนาอื่นๆหรือมิได้นับถือศาสนา
ภูมิอากาศ: ภูมิอากาศของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ขึ้นอยู่กับระดับความสูงของพื้นที่ และมีลักษณะภูมิอากาศตั้งแต่ แบบแอลป์ ไปจนถึง แบบเมดิเตอร์เรเนียน สำหรับฤดูใบไม้ผลิ สภาพอากาศที่นั่นกำลังเย็นสบายเลยค่ะ ถ้าอยู่ในเมือง อากาศจะอยู่ที่ประมาณ 15-20 องศาเซลเซียส แต่ถ้าขึ้นไปบนภูเขาสูงมีหิมะปกคลุม อุณหภูมิจะติดลบ เมื่อถึงฤดูหนาว ในประเทศจะเต็มไปด้วยหิมะ และอาจมีฝนด้วยในบางครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่อุณหภูมิจะติดลบนะคะ ส่วนฤดูร้อน อากาศจะอบอุ่นและเย็นชื้น โดยอาจมีฝนตกบ้าง อุณหภูมิในช่วงฤดูนี้อาจสูงถึง 30 องศาเซลเซียสได้ Daylight Savings time ตั้งแต่สิ้นเดือนมีนาคม จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม เวลาในสวิตเซอร์แลนด์จะเปลี่ยนจาก GMT+1 เป็น GMT+2 (ช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง และ 5 ชั่วโมง ตามลำดับ) โดยเริ่มตั้งแต่คืนวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคม เวลา 02.00 น. ใช้เวลา GMT+2 และตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ สุดท้ายของเดือนตุลาคม เวลา 03.00 น. ใช้เวลา GMT+1
เงินตรา ชื่อ สวิสฟรังก์ (Swiss Francs) ธนบัตร ใบละ 10, 20, 50, 100, 200, 500 และ 1,000 เหรียญ หน่วยเป็นซองตีมส์ (Centimes) 5, 10, 20, 50 หน่วยเป็นฟรังซ์ 1, 2, 5
การเดินทาง ใน สวิตเซอร์แลนด์ ทางรถยนต์ การเดินทางโดยรถยนต์ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้นสะดวกมาก ใบอนุญาตขับขี่สากลนั้นใช้ได้ในสวิส แต่อายุขั้นต่ำของผู้ขับขี่คือ 18 ปี ป้ายจราจรทั่วไป ในสวิตเซอร์แลนด์เหมือนกับป้ายจราจรในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกบางป้ายจะมีคำอธิบายอยู่ด้วย ป้ายจราจรตามเส้นทางที่เข้าใจง่าย แต่ควรจะใช้ความระมัดระวังในการขับรถตามถนนที่ค่อนข้างแคบและคดเคี้ยวไปมา สามารถที่จะหลีกเลี่ยงเส้นทางบนเขาได้โดยเลี่ยงไปใช้อุโมงค์สำหรับรถยนต์ หรือรถไฟ ความเร็วจำกัดในการขับรถยนต์ คือ บนทางด่วนไม่เกิน 120 กิโลเมตร / ชั่วโมง (75 ไมล์/ชั่วโมง) บนทางหลวงไม่เกิน 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง (31 ไมล์/ ชั่วโมง) การจำกัดความเร็วนั้นจะระบุเป็นกิโลเมตรเสมอ ตามทางด่วนจะใช้ป้ายบอกเส้นทางเป็นสีเขียวนอกจากจะระบุเป็นอย่างอื่น รถทางขวาจะเป็นผู้มีสิทธิได้ใช้ทางก่อน กฎจราจรเป็นแบบไปขวามาซ้าย ขับชิดขวา และแซงทางซ้าย ห้ามแซงทางขวา ผู้โดยสารทุกคนต้องขาดเข็มขัดนิรภัย เด็กอายุต่ำกว่า 7 ขวบ จะต้องนั่งรัด เข็มขัดอยู่ในที่นั่งสำหรับ (Child Seat) รถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ทางด่วนจะต้องจ่ายค่าผ่านทางเป็นรายปีจำนวน 40 สวิสฟรังก์ ซึ่งเรียกกันว่า วิกแน็ต (Vignettte) ตามปกติ รถเช่าในประเทศสวิตเซอร์แลนด์จะรวมค่าเช่ารถด้วย สำหรับยานพาหนะที่เช่ามาจากนอกประเทศสวิตเซอร์แลนด์จะไม่รวมค่าผ่านทาง การจ่ายค่าผ่านทางด่วนนี้สามารถทำได้ที่ด่านชายแดนหรือที่สำนักงานไปรษณีย์ ของสวิตเซอร์แลนด์ หรือที่ปั๊มน้ำมันสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเรื่องนี้ได้ที่ WWW.europcar.ch
ทางเครื่องบิน มีสายการบินหลายสายที่บินเข้าท่าอากาศยานระหว่างประเทศของเมืองซูริค (www.unique.ch) เมืองเจนีวา (www.gva.ch) และเมืองบาเซิล (www.euairport.com) สายการบินสวิส (Swiss International Air Lines) ให้บริการบินระหว่างจุดหมายปลายทาง 126 แห่ง ใน 59 ประเทศทั่วโลกส่วนใหญ่จะเป็นประเทศในยุโรป แต่ขณะเดียวกันก็ให้บริการบินไปยังทวีปอื่น ๆ ด้วย (www.swiss.com) ที่สนามบินซูริคกับสนามบินเจนิวา มีสถานีรถไฟภายในบริเวณสนามบินและเส้นทางรถไฟ ที่อำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าไปในเมือง มีบริการทุก 10 - 20 นาที ใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองเพียง 10 นาทีเท่านั้น และที่สถานีรถไฟของสนามบินทั้งสองแห่งมีรถไฟวิ่งระหว่างประเทศ ไปยังเมืองใหญ่ของทุกประเทศในยุโรปทุกชั่วโมง ที่เมืองบาเซิล มีรถประจำทางให้บริการจากสนามบินไปยังในเมือง ทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองเพียง 15 - 20 นาที ชุมทางรถประจำทางในเมืองอยู่ติดกับสถานีรถไฟ
ทางรถไฟ ท่านจะชื่นชอบระบบรถไฟที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางและดีเยี่ยมของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพราะท่านจะเดินทางได้อย่างสะดวกสบายและผ่อนคลาย กับทั้งท่านยังสามารถเพลิดเพลินกับทัศนีย์ภาพที่งดงามสองข้างทางรถไฟ รถไฟจะออกจากสถานีทุก ๆ ชั่วโมง เริ่มต้นตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนถึงเที่ยงคืน การต่อรถไฟก็ง่ายและสะดวกมาก ตามปรกติแล้วจะใช้เวลาในการเปลี่ยนขบวนรถเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ตั๋วรถไฟเที่ยวเดียวและตั๋วไป - กลับ มีขายที่สถานีรถไฟทุกแห่งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับการเดินทางหลายเที่ยว ภายในประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้น เราแนะนำให้ท่านใช้ตั๋ว สวิส พาส (Swiss pass) ที่สะดวกและประหยัด การสำรองที่นั่งนั้นจำเป็นมากสำหรับรถไฟที่วิ่งบนเส้นทางสายท่องเที่ยว ที่เน้นเรื่องการชมวิวทิวทัศน์ เช่น สายกลาเชียร์ เอ็กซ์เพรส (Glacier Express) และ สายเบอร์นีน่า เอ็กซ์เพรส (Bernina Express) เป็นต้น การสำรองที่นั่งทำได้ ที่ สถานีรถไฟใหญ่ ๆ ทุกแห่ง
ยูโรพาส (Euro Pass) ยูเรลพาส (Eurail pass) ยูเรล ซีเล็คท์ พาส (Eurail Select Pass) ถ้าท่านวางแผนที่จะเดินทางไปหลายประเทศในทวีปยุโรปทางเลือกที่ประหยัดได้แก่ " ยูเรล ซีเล็คท์ พาส" ซึ่งใช้ได้ในการเดินทางรวม 3 ประเทศที่มีพรมแดนติดกัน "ยูโรพาส" ซึ่งใช้ได้ใน 9 ประเทศหรือ "ยูเรลพาส" ซึ่งใช้ได้ในการเดินทางรวม 17 ประเทศ บัตรโดยสารเหล่านี้ให้สิทธิแก่ผู้ที่ไม่มีถิ่นพำนักถาวรในยุโรปได้ เดินทางอย่างไม่จำกัดเที่ยวบนเครือข่ายบริการเดินทางโดยรถไฟในยุโรปที่มีมากที่สุดถึง 17 ประเทศ รวมทั้งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ด้วย เด็ก ๆ อายุตั้งแต่ 4 ขวบ จนถึง 12 ปี จ่ายค่าโดยสารครึ่งราคา ตั๋วยูเรลพาส ไม่มีขายในทวีปยุโรป ดังนั้น จึงควรซื้อตั๋วนี้ก่อนการเดินทางออก จากประเทศไทย โดยซื้อได้จากสำนักงานท่องเที่ยวของท่าน บัตรโดยสารหลักและเรือล่องทะเลสาบบางสายในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของ สวิตเซอร์แลนด์
1. Bern เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์เป็นเมืองโบราณเก่าแก่และโรแมนติก การเดินเที่ยวชมความงดงามของสถาปัตยกรรมในเขตเมืองเก่า เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมีโอกาสได้มาเยือนนครแห่งนี้ Bern สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้ว โดยมีแม่น้ำ Aare ล้อมรอบตัวเมือง แม่น้ำแห่งนี้เปรียบเหมือนปราการธรรมชาติซึ่งป้องกันเมืองไว้ทั้งสามด้าน สำหรับด้านที่สี่ชาวเมืองได้สร้างกำแพงและสะพานข้ามที่สามารถชักขึ้นลงได้ และโดยการรักษาผังเมืองให้มีสภาพดังเดิมตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา Bern จึงได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกของ UNESCO ซึ่งเป็นเมืองเดียวในประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ การเดินชมเมืองควรเริ่มจาก Rose Garden เพียง 5 นาทีก็จะพบกับบ่อเลี้ยงหมีของเมือง ( หมี เป็น สัญลักษณ์ของ Bern ) จากนั้นเมื่อเดินข้ามสะพานมา ก็จะเริ่มเข้าเขตเมืองเก่า ที่มีหลังคาคลุมตลอดทางยาวถึง 6 กิโลเมตร ภายใต้หลังคานี้มีร้านค้ามากมายหลายร้อยแห่ง รวมทั้งภัตตาคารที่มีมากกว่า 150 แห่งในเขตเมืองเก่า และด้วยการดูแลรักษาสถาปัตยกรรมของเมืองอย่างดี Bern ยังเปรียบเหมือนเหมืองทองของนักถ่ายภาพอีกด้วย นอกจากนั้น Bern ยังมีโบสถ์ที่สูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้ง ตลาดนัดชาวนา ซึ่งจัดขึ้น 2 ครั้งต่อสัปดาห์ที่หน้ารัฐสภาของเมืองแห่งนี้
2. Interlaken "สวยเหมือนเมืองในฝัน" คือคำจำกัดความของ Interlaken ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ Thun และ Brienz สถานที่ตากอากาศชั้นนำส่วนใหญ่ในถิ่นที่เรียกกันว่า Bernese Oberland ตั้งอยู่ตามเชิงเขา Eiger, Monch และ Jungfrau ทิวทัศน์แถบนี้บริสุทธิ์และสวยงามเกินคำบรรยาย จึงเป็นสถานตากอากาศที่นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกชื่นชอบมากที่สุด Jungfraujoch หลังคาแห่งยุโรป ล่าสุดได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกของ Unescoเมื่อเดือนธันวาคม 2544 สถานีรถไฟสูงที่สุดในยุโรป ที่ไม่สามารถลืมไปได้ ในการทัศนาจรภูเขา ซึ่งมีความสูงถึง 3454 เมตร พบกับสิ่งสวยงามที่นี่คือ วังน้ำแข็ง และทัศนียภาพ ที่งดงามประกอบไปด้วย Sphinx หอคอยชมทัศนียภาพ ที่อยู่เหนือธารน้ำแข็ง Aletsch ( ยาวที่สุดในเทือกเขา Alps ) และยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ของประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมกันนี้ยังจะเดินเล่นบนหิมะ นั่งกระดานเลื่อนโดยมีสุนัข Husky ลาก สนามเล่นสกี สโนว์บอร์ทสำหรับฤดูร้อนหรือ ท่านที่ชอบการท้าทาย ก็มีการผจญภัยอีกหลายอย่าง รับรอง 100% ท่านจะพบกับ หิมะ และน้ำแข็งที่นี่ Mount Schilthorn Piz-Gloria จับรถไฟจาก INTERLAKEN สู่ LAUTERBRUNNEN ใช้เวลาประมาณ 35 นาที และจาก LAUTERBRUNNEN BLM ขึ้นเขาไปหมู่บ้าน MURREN เป็นหมู่บ้านปลอดรถยนต์ โดยรถรอกกว้าน (FUNICULAR) ต่อจากนั้นขึ้นรถกระเข้าที่ MURREN ไปยอดเขาชินธอน ที่ MOUNT SCHILTHORN PIZ-GLORIA มีภัตตาคารหมุนอยู่บนยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 3000 เมตร ถ้าอากาศดีจะมองเห็นเทือกเขาแอล์ปได้รอบด้านตั้งแต่เยรมันจนถึง ฝรั่งเศสวิวทิวทัศน์สวยงามตระการตาอย่างยิ่ง Grindelwald รถไฟใช้เวลาประมาณ 35 นาที ขนาบข้างด้วยธารน้ำแข็ง 2 ด้านที่ทอดตัวยาวลงมาจากภูเขาสูงสู่หุบเขา จากที่นี่จะมองเห็นภูเขา Eiger ทางด้านเหนือ (North Face) ที่ยืนหยัดท้าทายผู้พิชิตความสูงมาแล้วมากมายและ Wetterhorn ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 3701 เมตร Schynige Platte Alpine Garden มีพันธุ์ไม้ที่ขึ้นอยู่ตามเทือกเขาแอล์ปให้ดูหลายชนิดใช้เวลาเดินชม 3-4 ชั่วโมง ค่าเข้าชม 40 ฟรังซ์ ต้องขึ้นรถไฟไปบนยอดเขา บน Schynige Platte มี Paragliding ให้ลองด้วย ล่องเรือในทะเลสาบ Thun และ Brienz ในวงล้อมของภูเขาสูง แวะชมปราสาท Thun ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่จัดแสดงในห้องโถงใหญ่ของปราสาท เปิดให้ชมระหว่างเดือนมีนาคม ถึง เดือนตุลาคม Spiez ชมปราสาทโบราณที่เปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม ถึงกลางเดือนตุลาคม ค่าโดยสารเรือฟรีโดยใช้สวิสพาสส์ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง Ballenberg แสดงให้เห็นถึงชาติพันธุ์และการดำรงชีวิตในสมัยโบราณ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน ถึง 31 ตุลาคม ล่องแพครึ่งวันกับไกด์นำเที่ยวรอบๆ Interlaken ราคาตั้งแต่ 54-84 ฟรังซ์ต่อคน ขึ้นอยู่กับรายการนำเที่ยว การผจญภัยตามช่องเขา น้ำตก ว่ายน้ำ สำรวจถ้ำ และเดินเท้า (Canyoning) ราคา 80-120 ฟรังซ์ต่อคน พร้อมไกด์นำเที่ยว
3. Luzern Water Tower และ Chapel Bridge เป็นสัญลักษณ์ของเมือง Lucerne ที่นักท่องเที่ยวจำได้ทันทีที่เห็น สร้างมานานกว่า 650 ปีแล้ว ตัวเมืองเก่าเริ่มจากฝั่งแม่น้ำ Reuss มีสถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้างที่น่าสนใจหลายแห่ง เมือง Luzern จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวเกือบตลอดปี เพราะเป็นเมือง ชอปปิ้งที่อยู่ระดับแนวหน้าของสวิตเซอร์แลนด์ จะมีตลาดนัดเป็นประจำทุกวันอังคารและวันเสาร์ ด้วย สถานที่เที่ยวและกิจกรรมที่แนะนำในเมือง Luzern : พิพิธภัณฑ์การขนส่งและคมนาคม (Museum of Transport and Communication) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป มีห้องจัดแสดงถึง 12 ห้องเป็นที่น่าสนใจและน่าชมมาก ภูเขา Titlis และ Pilatus เป็นภูเขาที่มีความชันที่สุดในโลก มีภัตตาคารอยู่บนยอดเขาที่สามารถชมทิวทัศน์โดยรอบได้ ใช้สวิสพาสส์ล่องเรือชมทิวทัศน์ไปในทะเลสาบ Luzern จนถึงเมือง Vitznau สามารถต่อรถไฟขึ้นไปเที่ยวภูเขา Rigi (ความสูง 1798 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) ภูเขา Stanserhorn เดินทางโดยรถรอกกว้านสมัยเก่าและรถกระเช้ารุ่นใหม่ล่าสุด (Aerial Cable Car) เพื่อชมทิวทัศน์และรับประทานอาหาร Casino Vegas เป็นสถานที่เสี่ยงโชคกับเครื่องเล่นสลัดแขนเดียว (Slot-machine) หลากชนิด และชมการแสดงพื้นเมืองจากทุกภาคของสวิตเซอร์แลนด์
4. Lausanne เมืองโลซานน์เป็นเมืองที่สงบและงดงามมากอยู่ติดกับทะเลสาบ เจนีวามีท่าเรือข้ามไปสู่ประเทศฝรั่งเศสได้ เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์โอลิมปิค ซึ่งท่านจะพบกับการแสดงอันยิ่งใหญ่ของวินาทีแห่งประวัติศาสตร์โอลิมปิคกับสุดยอด Special Effect ที่จะทำให้คุณย้อนกลับไปอยู่ในเหตุการณ์จริง ชมหลักฐานที่สำคัญต่างๆในซุ้มนิทรรศการ ห้องจัดแสดงงาน ศูนย์ข้อมูลพร้อมศูนย์อำนวยความสะดวกต่างๆอย่างครบครัน รับฟรีบัตรเข้าชม Olympic Museum สำหรับท่านที่จองสวิตเซอร์แลนด์แพคเกจ
5. Zurich เมืองใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ ศูนย์กลางการค้าทองคำของโลก ตั้งอยู่ทิศเหนือสุดของทะเลสาบ Zurich ศูนย์กลางสำคัญของธุรกิจพาณิชย์ เศรษฐกิจและการเงิน มีโรงละครโอเปร่า คอนเสิร์ต พิพิธภัณฑ์ โบสถ์และวิหารเก่าแก่อย่าง Grossmunster และ Fraumunster ที่จะพลาดไม่ได้เป็นอันขาดคือถนน Bahnhofstrasse ที่ขึ้นชื่อลือชาหนักหนาว่าแต่ละร้านล้วนตกแต่งประดับประดากันอย่างอลังการ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ตลอดสองข้างทางของถนนมีห้องเสื้อชั้นนำของยุโรป, รองเท้า, กระเป๋า, เครื่องประดับนานาชนิด และที่ขาดไม่ได้เลยคือร้านขายนาฬิกา Zurich มีรถรางและรถโดยสารบริการควบคู่กันไป การเดินทางไปที่ต่างๆ จึงสะดวกและประหยัดท่านสามารถใช้สวิสพาสส์ได้อีกเช่นเคย ในส่วนของเมืองเก่า น่าเดินเที่ยวเพราะมีร้านขายของเก่า ร้านภาพเขียนทั้งเก่าและใหม่ และร้านหนังสือดีๆ ตลอดจนถึงสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้านอีกด้วย
อาหารสวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้พอเมื่อไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ต้องรับประทาน สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่รวบรวมเอาวัฒนธรรม ของประเทศเพื่อนบ้านไว้หลากหลาย ทำให้อาหารการกินของที่นี่ ได้รับอิทธิพลจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาก เช่น ประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี อาหารสวิตเซอร์แลนด์ ที่ท่านจะพลาดไม่ได้ ก็คือ Cheese Fondue, Sausages and Roesti (มันฝรั่งซอยละเอียดทอด มีไส้กรอกเป็นเครื่องเคียง), เนยแข็งนานาชนิด และ ของหวาน เช่น ช็อกโกแลต, เพสตี้ และเค้ก เป็นต้น ท่านสามารถไปลิ้มลองขนมหวาน รสชาติกลมกล่อมได้ตามภัตตาคาร ร้านอาหารที่มีอยู่มากมายใน สวิตเซอร์แลนด์แห่งนี้อาหารท้องถิ่น
ระบบไฟฟ้า ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ใช้ระบบไฟฟ้า 220 โวลท์, 50 ไซเคิ้ลสามารถใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ทุกชนิด แต่จะเป็นหัวปลั๊กแบบสามขา บางครั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าในเมืองไทยก็เป็นแบบสองขา เพราะฉะนั้น ท่านอย่าลืมนำหัวปลั๊กต่อเชื่อม หรือ Adapter ไปด้วย
ระบบโทรศัพท์ นักท่องเที่ยวสามารถใช้โทรศัพท์ที่ใดก็ได้ทั่วประเทศ และยังสามารถโทรไปที่ต่างๆ ทั่วโลกได้เช่นกัน โดยการหมุนหมายเลขรหัสประเทศนั้น ตามด้วยหมายเลขเมือง และเบอร์โทรของประเทศไทยคือ 0066 + จังหวัด + หมายเลขโทรศัพท์ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีบริการโทรศัพท์ทางไกล ทั้งชนิดหยอดเหรียญและใช้การ์ดโฟน หรืออีกวิธีหนึ่ง คือ การเปิด Roaming แต่ก่อนเปิดใช้งานจะต้องไปแจ้งทางเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของท่านก่อน
ข้อแนะนำพิเศษ ยารักษาโรคประจำตัว ยาดม ยาแก้ปวดเมื่อย ยาแก้ปวดหัว ควรเตรียมไปเองนะคะ เพราะการซื้อยาที่สวิสเซอร์แลนด์ค่อนข้างยุ่งยาก การที่จะไปซื้อตามร้านขายยาแล้วได้รับเลยอย่างที่บ้านเราไม่สามารถทำได้ ที่นั่น ท่านจะต้องมีใบสั่งยาจากหมอก่อน แล้วค่อยเอาใบสั่งไปยื่นที่ร้านขายยา ซึ่งจะทำให้เราเสียเวลาในการท่องเที่ยวไปมากทีเดียว
สำหรับค่าทิป โดย ปกติจะรวมอยู่แล้วใน ค่าที่พักในสวิตเซอร์แลนด์ ค่าอาหาร ค่าทำผม หรือ ค่ารถแท็กซี่ ส่วนค่ายกกระเป๋า ถือเป็นบริการพิเศษที่นอกเหนือออกไป ท่านควรทิปให้พนักงานด้วย อัตราทั่วไปคือ ทิป 2 ฟรังช์ต่อกระเป๋าหนึ่งใบ
เวลาทำการทั่วไป ธนาคาร จันทร์-ศุกร์ 08.30-16.30 ไปรษณีย์ จันทร์-ศุกร์ 07.30-12.00 ,13.30-18.00 เสาร์ 07.30-11.00 ร้านค้า จันทร์-ศุกร์ 08.00-12.00 ,13.00-18.30
แหล่งช้อปปิ้ง สถานที่ช้อปปิ้งในเมือง Interlaken โด่งดังมากด้านงานฝีมือทุกชนิด ตั้งแต่ผ้าปัก ไม้แกะสลักไปจนถึงของที่ระลึกจำนวนมาก แต่ถ้าอยากไปซื้อนาฬิกาเลื่องชื่อของที่นี่ท่านจะต้องไปที่เมือง Luzern ชื่อนี้เป็นที่คุ้นหูคนไทยมากที่สุด เพราะเป็นเมืองที่นาฬิกาโรเล็กซ์ขายดีที่สุด รองลงมาคือมีดพก (Swiss Army Knives)
รับยื่นวีซ่าสวิตเซอร์แลนด์, รับทำวีซ่าสวิตเซอร์แลนด์, ให้คำปรึกษาและรับยื่นวีซ่าสวิตเซอร์แลนด์, ใช้บริการวีซ่าวีซ่าสวิตเซอร์แลนด์ที่ไหนดี, กรอกเอกสารมัครวีซ่าสวิตเซอร์แลนด์, การเตรียมตัวสมัครวีซ่าสวิตเซอร์แลนด์, เอกสารสำหรับขอวีซ่าสวิตเซอร์แลนด์ ติดต่อขอใช้บริการ สาขาในกรุงเทพมหานคร แขวงขุมทอง แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกะปิ แขวงคลองจั่น แขวง แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ แขวงทุ่งวัดดอน แถว เขตคลองเตย แขวงคลองเตย แขวงคลองตัน แขวงพระโขนง เขตคลองสาน แขวงคลองต้นไทร แขวงคลองสาน แขวงบางลำพูล่าง แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสามวา แขวงทรายกองดิน แขวงทรายกองดินใต้ แขวงบางชัน แขวงสามวาตะวันตก แขวงสามวาตะวันออก เขตคันนายาว แขวงคันนายาว เขตจตุจักร แขวงบวรนิเวศ แขวงบางขุนพรหม แขวงบ้านพานถม แขวงพระบรมมหาราชวัง แขวงวังบูรพาภิรมย์ แขวงวัดราชบพิธ แขวงวัดสามพระยา แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ แขวงสำราญราษฎร์ แขวงเสาชิงช้า เขตภาษีเจริญ แขวงคลองขวาง แขวงคูหาสวรรค์ แขวงบางจากแขวงจตุจักร แขวงจอมพล แขวงจันทรเกษม แขวงลาดยาว แขวงเสนานิคม เขตจอมทอง แขวงจอมทอง แขวงบางขุนเทียน แขวงบางค้อ แขวงบางมด เขตดอนเมือง แขวงสีกัน เขตดินแดง แขวงดินแดง เขตดุสิต แขวงดุสิต แขวงถนนนครไชยศรี แขวงวชิรพยาบาล แขวงสวนจิตรลดา แขวงสี่แยกมหานาค เขตตลิ่งชัน แขวงคลองชักพระ แขวงฉิมพลี แขวงตลิ่งชัน แขวงบางเชือกหนัง แขวงบางพรม แขวงบางระมาด แขวงทวีวัฒนา แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทุ่งครุ แขวงทุ่งครุ แขวงบางมด เขตธนบุรี แขวงดาวคะนอง แขวงตลาดพลู แขวงบางยี่เรือ แขวงบุคคโล แขวงวัดกัลยาณ์บูรณะ แขวงบางปะกอก แขวงราษฎร์บูรณะ เขตลาดกระบังแขวงยานนาวา เขตสายไหม แขวงคลองถนน แขวงสายไหม แขวงออเงิน เขตหนองแขม แขวงหนองแขม แขวงหนองค้างพลู เขตหนองจอก แขวงกระทุ่มราย แขวงคลองสิบ แขวงคลองสิบสอง แขวงคู้ฝั่งเหนือ แขวงโคกแฝด แขวงลำต้อยติ่ง แขวงลำผักชี แขวงหนองจอก เขตหลักสี่ แขวงตลาดบางเขน แขวงทุ่งสองห้อง เขตห้วยขวาง แขวงบางกะปิ แขวงสามเสนนอก แขวงสำเหร่ แขวงหิรัญรูจี เขตบางเขน แขวงท่าแร้ง แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางแค แขวงบางแค แขวงบางแคเหนือ แขวงบางไผ่ แขวงหลักสอง เขตบางกอกใหญ่ แขวงวัดท่าพระ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกน้อย แขวงบางขุนนนท์ แขวงบางขุนศรี แขวงบ้านช่างหล่อ แขวงศิริราช แขวงบางด้วน แขวงบางแวก หัวหมาก เขตบางขุนเทียน แขวงท่าข้าม แขวงแสมดำ เขตบางคอแหลม แขวงบางโคล่ แขวงบางคอแหลม แขวงวัดพระยาไกร เขตบางซื่อ แขวงบางซื่อ เขตบางนา แขวงบางนา เขตบางบอน แขวงบางบอน เขตบางพลัด แขวงบางบำหรุ แขวงบางพลัด แขวงบางยี่ขัน แขวงบางอ้อ เขตบางรัก แขวงบางรัก แขวงมหาพฤฒาราม แขวงสี่พระยา แขวงสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบึงกุ่ม แขวงคลองกุ่ม เขตปทุมวัน แขวงปทุมวัน แขวงรองเมือง แขวงลุมพินี แขวงวังใหม่ เขตประเวศ แขวงดอกไม้ แขวงประเวศ แขวงหนองบอน เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย แขวงคลองมหานาค แขวงบ้านบาตร แขวงป้อมปราบ แขวงวัดเทพศิรินทร์ แขวงวัดโสมนัส เขตพญาไท แขวงสามเสนใน เขตพระโขนง แขวงบางจาก เขตพระนคร แขวงชนะสงคราม แขวงตลาดยอดแขวงคลองสองต้นนุ่น แขวงคลองสามประเวศ แขวงทับยาว แขวงลาดกระบัง แขวงลำปลาทิว เขตลาดพร้าว แขวงจรเข้บัว แขวงลาดพร้าว เขตวังทองหลาง แขวงวังทองหลาง เขตวัฒนา แขวงคลองเตยเหนือ แขวงคลองตันเหนือ แขวงพระโขนงเหนือ เขตสวนหลวง แขวงสวนหลวง เขตสะพานสูง แขวงสะพานสูง เขตสัมพันธวงศ์ แขวงจักรวรรดิ แขวงตลาดน้อย แขวงบางหว้า แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตมีนบุรี แขวงมีนบุรี แขวงแสนแสบ เขตยานนาวา แขวงช่องนนทรี แขวงบางโพงพาง เขตราชเทวี แขวงถนนเพชรบุรี แขวงถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท แขวงมักกะสัน เขตราษฎร์ แขวงห้วยขวาง สาขาในจังหวัดอ่างทอง โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดนครราชสีมา โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดบึงกาฬ โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดบุรีรัมย์ โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดขอนแก่น โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดตาก โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168,สาขาในจังหวัดมหาสารคาม โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดแพร่ โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดสมุทรสงคราม โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดยะลา โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดนนทบุรี โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดปทุมธานี โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดพิจิตร โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดชุมพร โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดตรัง โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดนครศรีธรรมราช โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดเชียงราย โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดเชียงใหม่ โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดน่าน โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดพะเยา โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดลำปาง โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดลำพูน โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดสมุทรสาคร โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดสิงห์บุรี โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดสกลนคร โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดสุรินทร์ โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดศรีสะเกษ โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดหนองคาย โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดแม่ฮ่องสอน โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดนครนายก โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดนครปฐม โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดนครสวรรค์ โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดอุตรดิตถ์ โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดกาฬสินธุ์ โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดนราธิวาส โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดปัตตานี โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดพังงา โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168,สาขาในจังหวัดร้อยเอ็ด โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดเลย โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดนครพนม โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดพัทลุง โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดภูเก็ต โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168,สาขาในจังหวัดชัยนาท โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดพิษณุโลก โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดเพชรบูรณ์ โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดลพบุรี โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดสมุทรปราการ โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168,สาขาในจังหวัดหนองบัวลำภู โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดอุดรธานี โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดมุกดาหาร โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดระนอง โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดสตูล โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดสงขลา โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดสุราษฎร์ธานี โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168,สาขาในจังหวัดยโสธร โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดชัยภูมิ โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดจันทบุรี โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168,สาขาในจังหวัดสุโขทัย โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดสุพรรณบุรี โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดสระบุรี โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดเพชรบุรี โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดราชบุรี โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดกระบี่ โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดฉะเชิงเทรา โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดชลบุรี โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดตราด โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดปราจีนบุรี โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดระยอง โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดสระแก้ว โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดกาญจนบุรี โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดอุบลราชธานี โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดอำนาจเจริญ โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดกำแพงเพชร โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168, สาขาในจังหวัดอุทัยธานี โทร.083-2494999 Line ID : @NYC168,